Last updated: 17 ม.ค. 2567 | 531 จำนวนผู้เข้าชม |
เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง “อาการเบิร์นเอาท์” และ “ความขี้เกียจ”
เบิร์นเอาท์ VS ขี้เกียจ
ที่เป็นอยู่เพราะอะไรกันแน่นะ?
พอถึงวันจันทร์ทีไรน้ำตาจะไหลทุกทีเลย อยากอยู่นิ่ง ๆ ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากทำงาน หมดใจ หมดเรี่ยวแรง อาการแบบนี้อาจบอกถึง “ภาวะเบิร์นเอาท์ ซินโดรม” ก็เป็นได้ แต่รู้มั้ยล่ะว่า…มันมีเส้นบางๆ ก้นอยู่ระหว่างเบิร์นเอาท์กับความขี้เกียจอยู่นะ ลองมาเช็กกันดูครับว่าที่เราเป็นอยู่มันคืออะไรกันแน่
เบิร์นเอาท์ ซินโดรม (Burnout Syndrome)
เกิดจากการทำงานหนักแล้วไม่ได้พักผ่อนเป็นเวลานาน ความเครียดสะสมทำให้พักผ่อนได้ไม่เพียงพอึ่งส่งผลต่อจิตใจที่อาจนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าได้
อาการ
ไม่อยากตื่นมาทำงาน
เบื่อหน่ายงาน
ไม่อยากคุยกับใคร
ไม่มีความสุขในการทำงาน
ขาดสมาธิ และความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน
วิธีแก้ไข
โดยธรรมชาติแล้วมนุษย์แต่ละคนจะมีวิธีการพาตัวเองกลับมาที่ไม่เหมือนกัน ได้แก่
นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
เปลี่ยนบรรยากาศในการทำงาน
หาที่เงียบสงบแล้วนั่งโง่ ๆ ดูก้อนเมฆลอยผ่านไปมา ไม่ต้องเล่นมือถือรับรู้เรื่องราวของคนอื่นสักพัก ไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งใด ๆ
จดบันทึก
ออกไปพบเจอผู้คน เพราะมันทำให้คุณได้หัวเราะ เบี่ยงเบนความสนใจไปจากสิ่งที่ชวนให้หมดไฟ
ทำกิจกรรมเพื่อเติมเต็มความหมายของชีวิต เช่น การออกไปเป็นอาสาสมัคร ทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง
ความขี้เกียจ
เกิดจากนิสัยแม้ไม่ได้ทำอะไรก็อยากจะพักผ่อน
อาการ อ่อนเพลีย ไม่อยากทำอะไรเลย อยากอยู่เฉยๆ
วิธีแก้ไข ตั้งเป้าหมายเล็กๆ แล้วลงมือทำ ขี้เกียจไปให้สุด จนขี้เกียจจะขี้เกียจ
ไม่ว่าวันนี้เราอยากจะนอนต่อเพียงใด อยากจะอยู่เฉยๆ เพียงใด เทคนิคง่ายๆ ของลุงที่ใช้ได้ผลเสมอคือให้พึงระลึกไว้ว่าถ้าเราไม่ลุกขึ้นเดือนนี้เราจะกินอะไร พลังของเงินทองและความเป็นอยู่ของปากท้องจะเป็นพลังฮึดให้เราสู้ได้
17 ม.ค. 2567
17 ม.ค. 2567
17 ม.ค. 2567